มาดู 10 สัญญาณของโรคมะเร็งที่คนเรามักมองข้าม มารู้กันไว้ซะ ก่อนจะสายเกินแก้
1. มีก้อนเนื้อเกิดขึ้นในร่างกาย
การที่ร่างกายของเรามีก้อนเนื้อแปลกปลอมเกิดขึ้น นั่นก็อาจจะเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งได้ เช่นมะเร็งเต้านมในผู้หญิงเป็นต้น คนที่มีก้อนเนื้อแปลกปลอมส่วนใหญ่ถึง 77% ไม่คิดว่าก้อนเนื้อเหล่านั้นเป็นสัญญาณอันตรายของโรคที่ร้ายแรง ซึ่งนั่นทำให้กว่าจะรู้ตัวว่าตนเองเป็นโรคมะเร็งก็สายเกินไปเสียแล้ว ดังนั้นหากคลำเจอก้อนเนื้อแปลกปลอม ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจโดยละเอียดจะดีกว่านะ
2. อาการไอ และเสียงแหบแห้ง
เวลาคนเราเป็นไข้หวัดก็มักจะมีอาการไอร่วมด้วยอยู่เสมอ แต่ถ้าหากคุณหายจากอาการไข้หวัดแล้วยังคงไออยู่ตลอดไม่หายเสียทีละก็ ก็อาจจะเป็นสัญญาณของมะเร็งปอด มะเร็งในต่อมไทรอยด์ หรือมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้เช่นกัน โดยอาการอย่างต่อเนื่องและตลอดเวลานั้นเป็นสัญญาณหนึ่งที่สำคัญแต่คนเรากลับละเลย และคิดว่าที่ไอนั้นเป็นเพราะสาเหตุอื่น ซึ่งจริง ๆ แล้วถ้าหากคุณมีอาการไอติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็ควรจะไปพบแพทย์จะดีกว่า จะได้ทราบสาเหตุที่แท้จริงค่ะ
3. ความผิดปกติในระบบย่อยอาหาร
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่จะส่งผลให้ระบบการย่อยอาหารเกิดความผิดปกติ รวมทั้งระบบขับถ่ายก็จะผิดปกติตามไปด้วย ดังนั้นถ้าหากคุณรู้สึกว่าอาหารไม่ย่อยบ่อย ๆ หรือแม้แต่เกิดอาการท้องผูกที่รุนแรงละก็ ควรไปพบแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าอาการเหล่านั้นไม่ใช้สัญญาณของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ จะได้ไม่ต้องมานั่งวิตกกังวลกันทีหลัง
4. ความผิดปกติในกระเพาะปัสสาวะ
การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะเป็นสิ่งที่พบได้อยู่เสมอ ซึ่งโดยทั่วไปไม่อันตราย แต่ถ้าหากเริ่มมีเลือดปะปนออกมาในปัสสาวะ ก็อย่าชะล่าใจไปนะ เพราะคนจำนวนไม่น้อยที่ละเลยภาวะเลือดออกในปัสสาวะ และมาพบที่หลังว่าตนเองเป็นมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งในไต หรือต่อมลูกหมาก ดังนั้นอย่ามัวแต่คิดว่าการมีเลือดออกมาปะปนในปัสสาวะ หรือการที่รู้สึกเจ็บเวลาที่ปัสสาวะจะเป็นเพียงแค่การติดเชื้อ ไปตรวจให้แน่ใจดีกว่าเนอะ
5. อาการปวดแบบไร้สาเหตุ
อาการปวดบางชนิดที่เรื้อรัง อาจจะเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงอย่างมะเร็งได้ อาทิ มะเร็งกระดูกหรือมะเร็งรังไข่ โดยสมาคมโรคมะเร็งในประเทศสหรัฐอเมริกาได้เปิดเผยว่าอาการปวดนั้นคือสัญญาณที่บ่งบอกถึงการแพร่กระจายของโรคมะเร็ง ซึ่งในการศึกษาหนึ่งพบว่ามีคนเพียง 40 % เท่านั้นที่เมื่อเกิดอาการปวดเรื้อรังแล้วจะไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยให้แน่นอน
6. เจ็บคอเรื้อรัง
อาการเจ็บคอเรื้อรัง เป็นหนึ่งในสัญญาณที่คนมักจะละเลยและคิดว่าเกิดจากอาการไข้หวัดธรรมดาทั่วไป ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วอาการเจ็บคอเรื้อรัง อาจจะเป็นสัญญาณที่สำคัญของโรคมะเร็งกล่องเสียงหรือมะเร็งในลำคอได้ โดยมีการศึกษาพบว่า 78% ของอาสาสมัครที่เข้าร่วมในงานวิจัย ไม่คิดว่าอาการเจ็บคอเป็นสัญญาณอันตรายใด ๆ และไม่คิดจะพบแพทย์ ซึ่งความชะล่าใจแบบนี้ล่ะค่ะที่ทำให้บางรายไม่สามารถรักษาโรคมะเร็งได้ทันกาล ฉะนั้นอย่าวางใจกับอาการเจ็บคอเรื้อรังเป็นอันขาดเลยนะ
7. น้ำหนักลดโดยไร้สาเหตุ
สมาคมโรคมะเร็งอเมริกันเปิดเผยว่าการที่น้ำหนักลดลงแบบไร้สาเหตุมากกว่า 5 กิโลกรัมขึ้นไปนั้น เป็นสัญญาณที่สำคัญอันดับแรก ๆ ของโรคมะเร็งหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็งตับอ่อน โรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร โรคมะเร็งปอด หรือโรคมะเร็งในหลอดอาหาร ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะละเลยและคิดว่าอาจจะเป็นโรคอื่นมากกว่า ไม่ก็ดีใจที่น้ำหนักลด ซึ่งจริง ๆ การที่น้ำหนักลดแบบไร้สาเหตุอย่างต่อเนื่องนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลยอย่างยิ่ง ถ้าไม่อยากให้อาการป่วยสายเกินแก้ หากน้ำหนักลดเร็วและมากเกินไป ควรจะรีบไปพบแพทย์ดีกว่าค่ะ
8. กลืนอาหารลำบาก
แม้ว่าการที่คนเรากลืนอะไรได้ลำบากจะเป็นสัญญาณของปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทหรืออาการแพ้ต่าง ๆ แต่อาการนี้ก็เป็นสัญญาณของโรคมะเร็งได้เช่นกัน โดยเฉพาะโรคมะเร็งในหลอดอาหารหรือโรคมะเร็งในลำคอ ดังนั้นจึงไม่ควรละเลยเป็นอันขาด หากเกิดอาการกลืนอาหารหรือน้ำลายได้ลำบากบ่อยมากจนเกินไป ไม่ควรจะสันนิษฐานว่าเป็นเพราะระบบภูมิคุ้มกัน แต่ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยค่ะ หากเป็นโรคมะเร็งจะได้ทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที
9. เลือดออก
เลือดออกถือเป็นอาการที่น่ากลัวและอันตราย รวมทั้งเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งได้อีกด้วย อย่างเช่นการไอเป็นเลือด ก็อาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งปอด หรือแม้แต่การปะปนของเลือดในอุจจาระหรือปัสสาวะก็อาจจะเป็นสัญญาณเตือนของโรคมะเร็งในระบบขับถ่ายได้เช่นกัน นอกจากนี้การที่ผู้หญิงมีเลือดไหลออกมาจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่เป็นประจำเดือนก็ยังเตือนได้ถึงโรคมะเร็งปากมดลูก ฉะนั้นไม่ควรละเลยเป็นอย่างยิ่ง ถ้าไม่อยากจะรู้ตัวเมื่อสาย รีบไปพบแพทย์ทันทีที่มีเลือดออกแบบไม่มีสาเหตุเลยดีกว่า
10. เกิดการเปลี่ยนแปลงของไฝบนผิวหนัง
ไฝบนผิวหนังบางชนิดก็เป็นสัญลักษณ์ของโรคมะเร็งผิวหนังได้เช่นกัน โดยไฝที่บ่งบอกถึงโรคมะเร็งผิวหนังนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สังเกตเห็นได้ง่าย โดยอาจจะมีขนาดที่ขยายใหญ่ขึ้น แต่คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยให้ความสำคัญ กว่าจะรู้ตัวอีกทีมะเร็งผิวหนังก็ลุกลามจนการรักษาเป็นไปได้ยากและเป็นเวลานาน ถ้าไม่อยากต้องเสียเวลารักษา และต้องทนเจ็บปวดกับการรักษาก็ควรสังเกตไฝที่เกิดขึ้นตามร่างกายอยู่เสมอ ถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติก็ควรไปหาแพทย์ผิวหนังเพื่อตรวจวินิจฉัยค่ะ
สัญญาณทั้ง 10 อย่างที่แนะนำกันไป ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลยใช่ไหมล่ะคะ ซึ่งถ้าหากเราหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในร่างกายอยู่อย่างสม่ำเสมอ โรคมะเร็งที่ว่าอันตรายและน่ากลัวนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่เกิดความสามารถในการรักษาของแพทย์อย่างแน่นอน อ่านจบแล้วรีบสังเกตกันดีกว่าว่าร่างกายของเราเกิดการเปลี่ยนแปลง
อ้างอิง: Kapook
แต่อย่าพึ่งตกใจไป ลองหันมาดูแลด้วยการปรับภูมิสมดุลในร่างกาย เพื่อให้เม็ดเลือดขาวสามารถต่อสู้กับโรคได้
ปรึกษาปัญหาสุขภาพและถามตอบภูมิสมดุล
โทร.093-974-5878
Line : 989shop
โทร.093-974-5878
Line : 989shop